คุณเชื่อไหม? แอปพลิเคชันที่ทำให้พนักงานนับล้านทั้งรักและเกลียดนี้ เดิมทีเป็นเพียงผลผลิตจากโครงการ "ช่วยคนขี้เกียจ" ภายใน Alibaba เท่านั้น ตอนนั้น พนักงานต่างถูกไล่ล่าด้วยการประชุม อีเมล และข้อความในกลุ่ม จนรู้สึกเหมือนกำลังเล่น "เกมเอาชีวิตรอดในออฟฟิศ" ดังนั้นในปี 2014 วิศวกรกลุ่มหนึ่งจึงพัฒนาเครื่องมือขึ้นมาเพื่อรักษาอาการ "ขี้เกียจเลื่อนงาน" นามว่า DingTalk เป้าหมายง่ายๆ ก็คือ ทำให้การสื่อสารในที่ทำงานไม่รู้สึกเหมือนกำลังโทรหาเพื่อนที่ติดต่อไม่ได้อีกต่อไป
แต่ที่ไม่มีใครคาดคิดคือ เครื่องมืออัจฉริยะที่ตั้งใจจะใช้ภายในองค์กรนี้ พอเปิดตัวก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ราวกับว่าไปเสิร์ฟหมูตุ๋นสูตรลับในโรงอาหารบริษัท ในปี 2016 DingTalk เปิดตัวสู่สาธารณะอย่างเป็นทางการ โดยเวอร์ชันแรกได้นำเสนอฟีเจอร์ "อ่านแล้ว/ยังไม่ได้อ่าน" ทันที ทำให้หัวหน้าทั้งหลายยิ้มกว้าง แต่พนักงานกลับร้องครวญพร้อมกันว่า "ไม่สามารถแกล้งไม่เห็นข้อความได้อีกแล้ว!"
หลังจากนั้น การเติบโตของมันก็ราวกับขึ้นจรวด: ปี 2017 เปิดตัวข้อความ DING ที่ส่งการเตือนเพียงคลิกเดียว ยากจะหลีกเลี่ยงได้ยิ่งกว่าสายเรียกจากแม่; ปี 2019 ผสานรวมแพลตฟอร์ม Low-Code อย่าง YiDa ทำให้คนทั่วไปสามารถกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีได้; ปี 2020 ช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 DingTalk กลายเป็น "ราชาห้องเรียนออนไลน์" โดยไม่ได้ตั้งใจ นักเรียนร้องขอให้ "ยกเลิกการสมัคร" แต่ก็ยังต้องเช็คอินทุกวัน
จากประกายไอเดียในครัวหลังของ Alibaba สู่เครื่องมือจำเป็นประจำวันขององค์กรนับล้านทั่วโลก ประวัติการเติบโตของ DingTalk จึงเปรียบได้กับนิทานปรัชญาของโลกการทำงานยุคใหม่ ที่บอกว่า "เทคโนโลยีทำให้คนทั้งกลัวและขาดไม่ได้"
ภาพรวมฟีเจอร์หลัก
คุณคิดว่า DingTalk เป็นแค่เครื่องมือแชทเหรอ? คุณประเมินมันต่ำไปแล้ว! มันคือ "มีดพับสวิส" แห่งออฟฟิศ ฟีเจอร์แน่นจนคุณอาจเริ่มสงสัยชีวิต เมื่อเปิด DingTalk สิ่งแรกที่เห็นคือหน้าต่างแชท แต่มันไม่ใช่การแชทธรรมดา—รองรับทั้งข้อความ เสียง รูปภาพ เอกสาร แถมยังส่งข้อความ "อ่านแล้ว/ยังไม่ได้อ่าน" ได้ ทำให้หัวหน้าไม่ต้องถามอีกต่อไปว่า "คุณเห็นข้อความนี้หรือยัง?"
เจ๋งกว่านั้นคือ ฟีเจอร์ปฏิทิน ที่จัดการการประชุม เดดไลน์ และการเตือนความจำได้ในคลิกเดียว ยังสามารถแชร์ตารางงานกับเพื่อนร่วมงานได้ หมดปัญหากับบทสนทนาไร้ประสิทธิภาพแบบ "คุณว่างกี่โมง?" "เดี๋ยวฉันดูก่อน" พร้อมกับการแจ้งเตือนอัตโนมัติผ่านการสื่อสารทันที ทำให้การมาสายเป็นสิ่งที่ "ไม่มีอยู่จริง"
การแชร์ไฟล์ก็เทพไม่แพ้กัน การจัดเก็บบนคลาวด์ทำให้ทุกคนสามารถร่วมแก้ไขไฟล์ Excel เดียวกันได้ ใครแก้ตรงไหน มองเห็นได้ชัดเจน หมดปัญหาคำถามอมตะว่า "นี่ใช่เวอร์ชันล่าสุดหรือเปล่า?" แถมการแชร์ไฟล์ผ่าน "DingPan" ยังตั้งสิทธิ์การเข้าถึงได้ง่ายมาก ใครสามารถดู ใครสามารถแก้ไข ควบคุมได้ด้วยตนเอง
ส่วนการประชุมผ่านวิดีโอ รองรับผู้เข้าร่วมพร้อมกันได้เป็นร้อยคน ภาพเสถียรราวกับอยู่ในสถานที่จริง ระหว่างประชุมสามารถแชร์หน้าจอ ไฮไลต์จุดสำคัญ หรือแม้แต่บันทึกวิดีโอเก็บไว้ได้ หมดปัญหาเรื่องพลาดข้อมูลสำคัญ—นั่นเป็นโศกนาฏกรรมของยุคก่อนไปแล้ว เคล็ดลับเล็กๆ: กดปุ่ม "F" เพื่อเปิดโหมดเต็มจออย่างรวดเร็ว กลายเป็นสตรีมเมอร์มืออาชีพทันที!
ฟีเจอร์เหล่านี้ไม่ได้ทำงานแยกจากกัน แต่เชื่อมโยงกันอย่างกลมกลืน เหมือนวงออร์เคสตราที่มีความเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง ทำให้งานไม่เพียงมีประสิทธิภาพ แต่ยังมีความสนุกอีกด้วย
แอปพลิเคชันระดับองค์กรและการจัดการความปลอดภัย
ในโลกขององค์กร ความปลอดภัยก็เหมือนกับกางเกงใน—มองไม่เห็นในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าขาดมันไป ทั้งตัวคุณจะ "โป๊" ทันที DingTalk เข้าใจเรื่องนี้ดี จึงไม่ได้สวมแค่กางเกงชั้นในธรรมดา แต่มาพร้อมกับ "ชุดกางเกงในกันกระสุน" เต็มรูปแบบ เริ่มตั้งแต่การจัดการโครงสร้างองค์กร DingTalk ช่วยให้บริษัทสามารถสร้างโครงสร้างทีมได้อย่างแม่นยำเหมือนต่อเลโก้ ใครอยู่ใต้ใคร ใครสามารถดูข้อมูลอะไรได้ ชัดเจนทุกอย่าง หมดกังวลว่าพนักงานฝึกงานจะเผลาเข้าไปในกลุ่มส่วนตัวของหัวหน้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ที่เจ๋งกว่านั้นคือ การตั้งสิทธิ์การเข้าถึง ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็น "ระบบจัดการฮาราโมแห่งโลกดิจิทัล"—ใครสามารถส่งไฟล์ ใครดูได้อย่างเดียว ห้ามส่งต่อ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผู้ดูแลระบบเป็นผู้ตัดสินใจ นอกจากนี้ยังมีการเข้ารหัสข้อมูลแบบ end-to-end และการติดตั้งระบบคลาวด์เฉพาะองค์กร ทำให้ความลับทางธุรกิจของคุณ แม้จะถูกแฮกเกอร์จ้องเล็ง ก็จะเห็นเพียงข้อมูลที่แปลไม่ออก เหมือนกำลังมองภาษาเอเลี่ยน DingTalk ยังรองรับฟีเจอร์ติดลายน้ำติดตาม และบันทึกประวัติการใช้งาน ใครแอบเปิดดูสัญญาลูกค้า ระบบจะจดจำได้แม่นยำกว่ากล้องวงจรปิดในบ้านคุณ ฟีเจอร์เหล่านี้ไม่ใช่เพียงเทคโนโลยีที่เย็นชา แต่เป็นเกราะป้องกันที่ทำให้องค์กรสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องหวาดระแวง 畢竟งานก็หนักพออยู่แล้ว ใครจะอยากเลิกงานกลับบ้าน แล้วมาเจอกับข้อความแจ้งว่า "ข้อมูลรั่วไหลแล้ว"? ด้วยเกราะป้องกันดิจิทัลชั้นนี้ ทุกคนจึงสามารถแชท ประชุม และส่งไฟล์ได้อย่างสบายใจ โฟกัสไปที่ "การทำสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้อง" แทนที่จะต้องคอยกังวลว่า "อย่าให้ถูกแฮก"
ระบบนิเวศของ DingTalk และการผสานรวมกับบุคคลที่สาม
คุณคิดว่า DingTalk เป็นแค่เครื่องมือแชทเหรอ? คุณประเมินมันต่ำไปอีกแล้ว! มันไม่ใช่แอปที่ "ทำงานคนเดียว" แต่มันคือจักรวรรดิดิจิทัลที่ครอบคลุมทุกอย่าง ลองนึกภาพว่า บริษัทของคุณเปรียบเสมือนเมืองแห่งหนึ่ง และ DingTalk คือโครงสร้างพื้นฐานของเมืองนั้น—ถนน ไฟฟ้า การสื่อสาร ทั้งหมดถูกจัดการโดยมัน และยังเปิดโอกาสให้ผู้อื่นมาเปิดร้านอาหาร ตั้งธนาคาร หรือจัดตั้งโรงเรียนได้อีกด้วย นี่คือพลังของระบบนิเวศ DingTalk! ในตลาดแอปพลิเคชัน DingTalk มีแอปจากบุคคลที่สามให้เลือกใช้หลายร้อยรายการ: ตั้งแต่การจัดการบุคลากร การเบิกค่าใช้จ่าย การติดตามโครงการ ระบบ CRM จัดการความสัมพันธ์ลูกค้า ไปจนถึงปลั๊กอินที่ช่วยคุณสั่งอาหารนอก(ใช้ได้ก็ต่อเมื่อหัวหน้าอนุมัติ อย่าคิดมากเกินไป) แอปเหล่านี้เหมือนชิ้นส่วนเลโก้ ที่คุณสามารถจัด组合ตามความต้องการของบริษัท สร้างกระบวนการทำงานเฉพาะตัวได้ ที่เจ๋งกว่านั้นคือ แอปเหล่านี้รวมเข้ากับอินเตอร์เฟซ DingTalk ได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่ต้องสลับหน้าเว็บไปมา แม้แต่คุณยายก็ใช้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น นักพัฒนายังสามารถใช้ API ที่เปิดกว้างเพื่อสร้างเครื่องมือเฉพาะทาง และเชื่อมต่อระบบภายในองค์กรเข้ามาได้ นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นสตาร์ทอัพเทคโนโลยีหรือโรงงานแบบดั้งเดิม ก็สามารถใช้ DingTalk เป็นศูนย์กลาง ผสานรวมเครือข่ายดิจิทัลทั้งหมดขององค์กรเข้าด้วยกันได้ ความปลอดภัยมอบให้กับระบบป้องกันระดับองค์กรที่กล่าวมาในบทก่อน ส่วนความยืดหยุ่นก็ถูกครอบคลุมโดยระบบนิเวศ ทำให้ออฟฟิศกลายเป็นสวนสนุก ขาดแต่เครื่องชงกาแฟเท่านั้น—เดี๋ยวนะ บางทีในอนาคตอาจมีปลั๊กอินนั้นจริงๆ ก็ได้!
แนวโน้มในอนาคตและนวัตกรรม
ในขณะที่เรายังปวดหัวกับรายงานการประชุมเมื่อวาน DingTalk ก็แอบยัดปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าไปในช่องแชทเรียบร้อยแล้ว DingTalk ในอนาคต ไม่ใช่แค่เด็กดีที่คอย "ดิง" เตือนให้คุณเช็คอินอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นนักพยากรณ์ในที่ทำงานที่เข้าใจใจคุณได้ราวกับมี "วิชาอ่านใจ"! ด้วย AI มันสามารถสรุปประเด็นสำคัญของการประชุมอัตโนมัติ แปลงเสียงเป็นคำพูดพร้อมวิเคราะห์อารมณ์ หรือแม้แต่คาดการณ์ความเสี่ยงที่โครงการจะล่าช้า—เร็วกว่าหัวหน้าที่จะสังเกตเห็นว่าคุณแอบเล่นเกมในมือถือ
ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ก็ไม่ใช่แค่การสะสมตัวเลข แต่เป็น "เครื่องวัดอุณหภูมิองค์กร" ของ DingTalk มันสามารถวิเคราะห์รูปแบบการสื่อสารของทีม แจ้งเตือนคุณว่าแผนกใดใกล้จะ "ร้อนเกินไปจากการสื่อสาร" หรือแนะนำช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำงานข้ามแผนก ส่วนพื้นฐานที่รองรับทั้งหมดนี้ก็คือ ขีดความสามารถด้านคลาวด์คอมพิวติ้งอันทรงพลังจาก Alibaba Cloud ที่ทำให้ผู้คนนับแสนสามารถประชุมพร้อมกันได้อย่างลื่นไหล ราวกับกำลังเต้นรำ恰恰พร้อมกันบนสำนักงานในคลาวด์
ลองจินตนาการดู อนาคต DingTalk อาจมี "เลขา AI" ในตัว ที่สามารถจัดตารางงาน กรองข้อความขยะ หรือแม้แต่ช่วยเขียนรายงานสัปดาห์ที่ทำให้หัวหน้าของคุณถึงกับน้ำตาไหลได้ หรืออาจผสานกับการประชุมแบบ AR ทำให้คุณสามารถชี้จุดบนภาพสามมิติในสำนักงานเสมือนจริงได้ นวัตกรรมไม่เคยหยุดยั้ง DingTalk กำลังใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนงานที่น่าเบื่อ ให้กลายเป็นการผจญภัยที่สนุกสนานครั้งแล้วครั้งเล่า—ใครบอกว่าการทำงานจะต้องไม่สนุกเท่ากับการเล่นเกมล่ะ?
DomTech เป็นผู้ให้บริการอย่างเป็นทางการของ DingTalk ในฮ่องกง โดยเน้นให้บริการ DingTalk แก่ลูกค้าเป็นหลัก หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์ม DingTalk สามารถติดต่อพนักงานบริการลูกค้าออนไลน์ของเราได้โดยตรง หรือติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ (852)4443-3144 หรือทางอีเมล